1.จำนวนพันธะโคเวเลนต์ในโมเลกุล CH4 , SiCl4 ,
NaCl , NH3 เป็นกี่พันธะมีค่าเรียงตามลำดับ คือข้อใด
ก. 4 , 4 , 0 , 3 ข. 6 , 3 , 1 , 0 ค. 4 , 3 , 0 , 3 ง. 5 , 4 , 1 , 0
2. พันธะเดี่ยว หมายถึงอะไร
ก. พันธะที่เกิดจากการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน 1 คู่
ข. พันธะที่เกิดจากการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน 2 คู่
ค. พันธะที่เกิดจากการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน 3 คู่
ง. พันธะที่เกิดจากการใช้์อิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวร่วมกัน 1 คู่
3. ธาตุในข้อใด เกิดพันธะโคเวเลนต์กับธาตุคลอรีนได้ดีที่สุด
ก. Na ข. Ra ค. C ง. Cs
4. สมบัติทางกายภาพในข้อใด ที่ใช้อธิบายสมบัติทางเคมีของอโลหะ
ก. พลังงานไอออไนเซชันสูง ขนาดอะตอมใหญ่ สัมพรรคภาพอิเล็กตรอนน้อย
ข. พลังงานไอออไนเซชันต่ำ ขนาดอะตอมใหญ่ อิเล็กโทรเนกาติวิตีต่ำ
ค. พลังงานไอออไนเซชันสูง ขนาดอะตอมเล็ก สัมพรรคภาพอิเล็กตรอนน้อย
ง. พลังงานไอออไนเซชันสูง ขนาดอะตอมเล็ก อิเล็กโทรเนกาติวิตีสูง
5. ธาตุ Z มีพลังงานไอออไนเซชันตั้งแต่ลำดับที่หนึ่งถึงลำดับที่ 8 เป็นดังนี้ 1.320, 3.395, 5.307, 7.476, 10.996, 13.333, 71.343, 84.086 ธาตุ Z มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่าใด
ก. 1 ข. 4 ค. 6 ง. 7
6. ตารางแสดงค่าพลังงานพันธะเฉลี่ยในสารไฮโดรคาร์บอน
ก. 4 , 4 , 0 , 3 ข. 6 , 3 , 1 , 0 ค. 4 , 3 , 0 , 3 ง. 5 , 4 , 1 , 0
2. พันธะเดี่ยว หมายถึงอะไร
ก. พันธะที่เกิดจากการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน 1 คู่
ข. พันธะที่เกิดจากการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน 2 คู่
ค. พันธะที่เกิดจากการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน 3 คู่
ง. พันธะที่เกิดจากการใช้์อิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวร่วมกัน 1 คู่
3. ธาตุในข้อใด เกิดพันธะโคเวเลนต์กับธาตุคลอรีนได้ดีที่สุด
ก. Na ข. Ra ค. C ง. Cs
4. สมบัติทางกายภาพในข้อใด ที่ใช้อธิบายสมบัติทางเคมีของอโลหะ
ก. พลังงานไอออไนเซชันสูง ขนาดอะตอมใหญ่ สัมพรรคภาพอิเล็กตรอนน้อย
ข. พลังงานไอออไนเซชันต่ำ ขนาดอะตอมใหญ่ อิเล็กโทรเนกาติวิตีต่ำ
ค. พลังงานไอออไนเซชันสูง ขนาดอะตอมเล็ก สัมพรรคภาพอิเล็กตรอนน้อย
ง. พลังงานไอออไนเซชันสูง ขนาดอะตอมเล็ก อิเล็กโทรเนกาติวิตีสูง
5. ธาตุ Z มีพลังงานไอออไนเซชันตั้งแต่ลำดับที่หนึ่งถึงลำดับที่ 8 เป็นดังนี้ 1.320, 3.395, 5.307, 7.476, 10.996, 13.333, 71.343, 84.086 ธาตุ Z มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่าใด
ก. 1 ข. 4 ค. 6 ง. 7
6. ตารางแสดงค่าพลังงานพันธะเฉลี่ยในสารไฮโดรคาร์บอน
ชนิดพันธะ
|
พลังงานพันธะ
|
C - H
|
413
|
C - C
|
348
|
การสลายพันธะโพรเพน (C3H8) 0.5 โมล
จะต้องใช้พลังงานมากกว่าหรือน้อยกว่าการสลายพันธะอีเทน (C2H6)
0.5 โมล เท่าไร
ก. มากกว่า 587 kJ ข. น้อยกว่า 283 kJ ค. มากกว่า 526 kJ ง. น้อยกว่า 278 kJ
7. เหตุใดสารโคเวเลนต์ จึงมีจุดเดือด จุดหลอมเหลวต่ำ
ก. สารโคเวเลนต์มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อย ข. สารโคเวเลนต์มักสลายตัวได้ง่าย
ค. สารโคเวเลนต์ไม่มีประจุไฟฟ้า ง. สารโคเวเลนต์มักมีโมเลกุลขนาดเล็ก
8. สารละลายที่เกิดจากธาตุหมู่ 1 กับน้ำ มีสมบัติอย่างไร
ก. เป็นกลาง ข. เป็นได้ทั้งกรดและเบส ค. เป็นกรด ง. เป็นเบส
9. สาร X เป็นโมเลกุลไม่มีขั้ว สาร Y เป็นโมเลกุลมีขั้ว ส่วนสาร Z เป็นพันธะไม่มีขั้ว ถ้าขนาดของโมเลกุลของ X>Y>Z แล้วสาร X Y และ Z ควรเป็นดังข้อใด
ก. CH2 , NH3 , C6H6 ข. BeCl2 , CH2Cl2 , S8 ค. Br2 , H2O , H2 ง. SiH4 , PCl3 , PCl5
10. กำหนดค่า EN ของธาตุดังนี้ A = 3.0 , B = 2.8 X= 2.7 , Y = 3.7 จงเรียงลำดับความแรงขั้วจากมากไปน้อย
ก. A-B , B-X , X-Y ข. A-Y , B-X , A-X ค. Y-B , A-Y , A-X ง. A-X , B-Y , A-Y
11. ถ้า A , B และ C เป็นสารโคเวเลนต์ 3 ชนิด โดยทั้ง 3 ชนิดมีสถานะเป็นของเหลว โมเลกุลของสาร A และ B มีขั้ว ส่วนโมเลกุลของสาร C ไม่มีขั้ว สารใดสามารถละลายน้ำได้
ก. สาร C ข. สาร A และ C ค. สาร A เเละ B ง. สาร B และ C
12. จงระบุว่าสารในข้อใดละลายน้ำได้
1) แคลเซียมคลอไรด์ 2) แอมโมเนียมซัลเฟต 3 )เมอร์คิวรี(I)คลอไรด์
4) ไ อร์ออน(III)ไฮดรอกไซด์ 5) โพแทสเซียมฟอสเฟต
ก. 1 2 3 ข. 1 2 5 ค. 2 3 4 ง. 2 3 5
13. ถ้า A, B ,C ,D เป็นธาตุที่มีเลขอะตอม 7,11,17 และ 20 ตามลำดับ สูตรของไอออนและสารประกอบไอออนิกในข้อใดถูกต้อง
ก. มากกว่า 587 kJ ข. น้อยกว่า 283 kJ ค. มากกว่า 526 kJ ง. น้อยกว่า 278 kJ
7. เหตุใดสารโคเวเลนต์ จึงมีจุดเดือด จุดหลอมเหลวต่ำ
ก. สารโคเวเลนต์มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อย ข. สารโคเวเลนต์มักสลายตัวได้ง่าย
ค. สารโคเวเลนต์ไม่มีประจุไฟฟ้า ง. สารโคเวเลนต์มักมีโมเลกุลขนาดเล็ก
8. สารละลายที่เกิดจากธาตุหมู่ 1 กับน้ำ มีสมบัติอย่างไร
ก. เป็นกลาง ข. เป็นได้ทั้งกรดและเบส ค. เป็นกรด ง. เป็นเบส
9. สาร X เป็นโมเลกุลไม่มีขั้ว สาร Y เป็นโมเลกุลมีขั้ว ส่วนสาร Z เป็นพันธะไม่มีขั้ว ถ้าขนาดของโมเลกุลของ X>Y>Z แล้วสาร X Y และ Z ควรเป็นดังข้อใด
ก. CH2 , NH3 , C6H6 ข. BeCl2 , CH2Cl2 , S8 ค. Br2 , H2O , H2 ง. SiH4 , PCl3 , PCl5
10. กำหนดค่า EN ของธาตุดังนี้ A = 3.0 , B = 2.8 X= 2.7 , Y = 3.7 จงเรียงลำดับความแรงขั้วจากมากไปน้อย
ก. A-B , B-X , X-Y ข. A-Y , B-X , A-X ค. Y-B , A-Y , A-X ง. A-X , B-Y , A-Y
11. ถ้า A , B และ C เป็นสารโคเวเลนต์ 3 ชนิด โดยทั้ง 3 ชนิดมีสถานะเป็นของเหลว โมเลกุลของสาร A และ B มีขั้ว ส่วนโมเลกุลของสาร C ไม่มีขั้ว สารใดสามารถละลายน้ำได้
ก. สาร C ข. สาร A และ C ค. สาร A เเละ B ง. สาร B และ C
12. จงระบุว่าสารในข้อใดละลายน้ำได้
1) แคลเซียมคลอไรด์ 2) แอมโมเนียมซัลเฟต 3 )เมอร์คิวรี(I)คลอไรด์
4) ไ อร์ออน(III)ไฮดรอกไซด์ 5) โพแทสเซียมฟอสเฟต
ก. 1 2 3 ข. 1 2 5 ค. 2 3 4 ง. 2 3 5
13. ถ้า A, B ,C ,D เป็นธาตุที่มีเลขอะตอม 7,11,17 และ 20 ตามลำดับ สูตรของไอออนและสารประกอบไอออนิกในข้อใดถูกต้อง
ข้อ
|
ไอออนบวก
|
ไอออนลบ
|
สูตรสารประกอบไอออนิก
|
ก
|
D2+
|
A3-
|
D3A2
|
ข
|
C3+
|
B2-
|
C2B3
|
ค
|
B+
|
A-
|
BA
|
ง
|
A+
|
C-
|
AC
|
14. X เป็นสารประกอบของธาตุ Ca และ F มีจุดหลอมเหลวสูง ไม่นำไฟฟ้าที่อุณหภูมิห้อง
และละลายน้ำได้น้อยมาก ข้อสรุปใดต่อไปนี้ ไม่ สอดคล้องกับข้อมูลข้างต้น
ก. พันธะในสาร X เป็นพันธะไอออนิก
ข. เมื่อ X ละลายน้ำ จะดูดความร้อน ทำให้ละลายได้น้อย
ค. X มีสูตร CaF2 ผลึกมีความแข็งแรงมากจึงละลายได้ยาก
ง. สาร X เมื่อหลอมเหลวจะนำไฟฟ้า
15. เมื่อละลาย KCl ในน้ำเกิดปฏิกิริยาเป็นขั้น ๆ และมีการเปลี่ยนแปลงพลังงาน ดังนี้
1) KCl(s) -----> K+(g) + Cl-(aq) H1 = 701.2 kJ/mol
2) K+(g) + Cl-(g) -------> K+(aq) + Cl-(aq) H2 = 684.1 kJ/mol
ปฏิกิริยานี้เป็นแบบใด
ก. คายพลังงานเท่ากับ 1385.3 kJ/mol ข. คายพลังงานเท่ากับ 17.1 kJ/mol
ค. ดูดพลังงานเท่ากับ 17.1 kJ/mol ง. ดูดพลังงานเท่ากับ 1385.3 kJ/mol
16. สาร X , Y , Z มีพลังงานพันธะเป็น 120 , 200 , 90 kJ/mol ตามลำดับ จงเรียงความยาวพันธะจากน้อยไปมาก
ก. X , Y , Z ข. Z , Y , X ค. Y , X , Z ง. Z , X , Y
17. ข้อใดกล่าว ไม่ ถูกต้องเกี่ยวกับสมบัติของสารประกอบไอออนิก
ก. นำไฟฟ้าได้ทุกสถานะ ข. เกิดจากการรวมตัวของไอออนบวกกับไอออนลบ
ค. จัดเรียงตัวเป็นผลึก ง. มีผลรวมของประจุสุทธิ เป็น ศูนย์
18. พันธะเคมี หมายถึง อะไร
ก. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอม ข. พลังงานที่ทำให้อะตอมสลายตัว
ค. การอยู่รวมกันของอะตอม ง. การอยู่รวมกันของโมเลกุล
19. กำหนดการจัดอิเล็กตรอนของธาตุให้ ดังนี้ A 2,8,2 B 2,8,8,1 C 2,8,7 D 2,8,18, 8 ธาตุคู่ใดมีการเกิดเป็นสารประกอบไอออนิกได้
ก. A กับ D ข. C กับ D ค. B กับ C ง. B กับ D
ก. พันธะในสาร X เป็นพันธะไอออนิก
ข. เมื่อ X ละลายน้ำ จะดูดความร้อน ทำให้ละลายได้น้อย
ค. X มีสูตร CaF2 ผลึกมีความแข็งแรงมากจึงละลายได้ยาก
ง. สาร X เมื่อหลอมเหลวจะนำไฟฟ้า
15. เมื่อละลาย KCl ในน้ำเกิดปฏิกิริยาเป็นขั้น ๆ และมีการเปลี่ยนแปลงพลังงาน ดังนี้
1) KCl(s) -----> K+(g) + Cl-(aq) H1 = 701.2 kJ/mol
2) K+(g) + Cl-(g) -------> K+(aq) + Cl-(aq) H2 = 684.1 kJ/mol
ปฏิกิริยานี้เป็นแบบใด
ก. คายพลังงานเท่ากับ 1385.3 kJ/mol ข. คายพลังงานเท่ากับ 17.1 kJ/mol
ค. ดูดพลังงานเท่ากับ 17.1 kJ/mol ง. ดูดพลังงานเท่ากับ 1385.3 kJ/mol
16. สาร X , Y , Z มีพลังงานพันธะเป็น 120 , 200 , 90 kJ/mol ตามลำดับ จงเรียงความยาวพันธะจากน้อยไปมาก
ก. X , Y , Z ข. Z , Y , X ค. Y , X , Z ง. Z , X , Y
17. ข้อใดกล่าว ไม่ ถูกต้องเกี่ยวกับสมบัติของสารประกอบไอออนิก
ก. นำไฟฟ้าได้ทุกสถานะ ข. เกิดจากการรวมตัวของไอออนบวกกับไอออนลบ
ค. จัดเรียงตัวเป็นผลึก ง. มีผลรวมของประจุสุทธิ เป็น ศูนย์
18. พันธะเคมี หมายถึง อะไร
ก. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอม ข. พลังงานที่ทำให้อะตอมสลายตัว
ค. การอยู่รวมกันของอะตอม ง. การอยู่รวมกันของโมเลกุล
19. กำหนดการจัดอิเล็กตรอนของธาตุให้ ดังนี้ A 2,8,2 B 2,8,8,1 C 2,8,7 D 2,8,18, 8 ธาตุคู่ใดมีการเกิดเป็นสารประกอบไอออนิกได้
ก. A กับ D ข. C กับ D ค. B กับ C ง. B กับ D
20. เพราะเหตุใด อโลหะจึงยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะโคเวเลนต์
ก. อโลหะมีค่า EN สูงเสียอิเล็กตรอนยาก ข. อโลหะมีค่า EN สูงเสียอิเล็กตรอนง่าย
ค. อโลหะมีค่า EN ต่ำเสียอิเล็กตรอนยาก ง. อโลหะมีค่า EN ต่ำเสียอิเล็กตรอนง่าย
ก. อโลหะมีค่า EN สูงเสียอิเล็กตรอนยาก ข. อโลหะมีค่า EN สูงเสียอิเล็กตรอนง่าย
ค. อโลหะมีค่า EN ต่ำเสียอิเล็กตรอนยาก ง. อโลหะมีค่า EN ต่ำเสียอิเล็กตรอนง่าย
21. ธาตุที่เกิดพันธะไอออนิกกับออกซิเจนได้ดีที่สุด คือ ข้อใด
ก. กำมะถัน ข. คลอรีน ค. ดีบุก ง. โซเดียม
ก. กำมะถัน ข. คลอรีน ค. ดีบุก ง. โซเดียม
22. ข้อใดต่อไปนี้เป็นสูตรของสารประกอบ เมอร์คูริกซัลไฟด์
ก. CuCl ข. KBr ค. PbS ง. HgS
ก. CuCl ข. KBr ค. PbS ง. HgS
23. การเกิดสารประกอบ NaF(s) ข้อใดคือสมการรวมของปฏิกิริยา
ก. Na(g) + 1/2F2(g) ------> NaF(s)
ข. Na(s) + 2F2(g) -------> NaF(s)
ค. Na(g) + 1/2F(s) ------> NaF(s)
ง. Na(s) + 1/2F2(g) ------> NaF(s)
ก. Na(g) + 1/2F2(g) ------> NaF(s)
ข. Na(s) + 2F2(g) -------> NaF(s)
ค. Na(g) + 1/2F(s) ------> NaF(s)
ง. Na(s) + 1/2F2(g) ------> NaF(s)
24. การที่อะตอมพยายามปรับตัวเองให้อยู่ในสภาพเสถียรโดยทำให้อิเล็กตรอนวงนอกสุดเท่ากับ
8 เรียกกฎนี้ว่าอะไร
ก. กฎออกซิเดชั่น ข. กฎออกเตต ค. กฎโคเวเลนต์ ง. กฎไอออนิก
ก. กฎออกซิเดชั่น ข. กฎออกเตต ค. กฎโคเวเลนต์ ง. กฎไอออนิก
25. ข้อใด ไม่ เกี่ยวข้องกับพันธะเคมี
ก. รับอิเล็กตรอนจากอะตอมอื่น ข. ใช้อิเล็กตรอนร่วมกัน
ค. แย่งอิเล็กตรอนกับอะตอมอื่น ง. ให้อิเล็กตรอนกับอะตอมอื่น
26. ข้อใดกล่าว ไม่ ถูกต้องเกี่ยวกับสมบัติของสารประกอบไอออนิก
ก. มีผลรวมของประจุสุทธิ เป็น ศูนย์ ข. เกิดจากการรวมตัวของไอออนบวกกับไอออนลบ
ค. จัดเรียงตัวเป็นผลึก ง. นำไฟฟ้าได้ทุกสถานะ
ก. รับอิเล็กตรอนจากอะตอมอื่น ข. ใช้อิเล็กตรอนร่วมกัน
ค. แย่งอิเล็กตรอนกับอะตอมอื่น ง. ให้อิเล็กตรอนกับอะตอมอื่น
26. ข้อใดกล่าว ไม่ ถูกต้องเกี่ยวกับสมบัติของสารประกอบไอออนิก
ก. มีผลรวมของประจุสุทธิ เป็น ศูนย์ ข. เกิดจากการรวมตัวของไอออนบวกกับไอออนลบ
ค. จัดเรียงตัวเป็นผลึก ง. นำไฟฟ้าได้ทุกสถานะ
27. การที่โลหะรวมกับอโลหะแล้วโลหะจะให้อิเล็กตรอนแก่อโลหะ
เกิดไอออนบวกและไอออนลบ
ดึงดูดกัน ด้วยแรงดึงดูดไฟฟ้าสถิต สร้างพันธะไอออนิกขึ้นในสารประกอบนั้น
เพราะเหตุใด
ก. โลหะมีขนาดอะตอมเล็กกว่าอโลหะ
ข. อโลหะมีขนาดอะตอมใหญ่กว่าโลหะ
ค. โลหะมีค่า IE ต่ำ จึงให้อิเล็กตรอนได้ง่าย เพื่อปรับเวเลนซ์อิเล็กตรอนแบบก๊าซเฉื่อย
ง. โลหะมีค่า IE สูง จึงให้อิเล็กตรอนได้ง่าย เพื่อปรับเวเลนซ์อิเล็กตรอนแบบก๊าซเฉื่อย
28. กำหนดให้
ข. อโลหะมีขนาดอะตอมใหญ่กว่าโลหะ
ค. โลหะมีค่า IE ต่ำ จึงให้อิเล็กตรอนได้ง่าย เพื่อปรับเวเลนซ์อิเล็กตรอนแบบก๊าซเฉื่อย
ง. โลหะมีค่า IE สูง จึงให้อิเล็กตรอนได้ง่าย เพื่อปรับเวเลนซ์อิเล็กตรอนแบบก๊าซเฉื่อย
28. กำหนดให้
1. NaNO3 + KCl 2. NH4Cl
+ Ca(OH)2 3. K2SO4 +
BaCl2 4. AgNO3 +
KCl
5. Na2SO4 + Pb(NO3)2 6.
Na2CO3 + CaCl2
การผสมสารละลายของสารประกอบไอออนิกคู่ใด ทำให้เกิดตะกอน
การผสมสารละลายของสารประกอบไอออนิกคู่ใด ทำให้เกิดตะกอน
ก. 1 3 4 5
ข.
3 4 5 6 ค. 2 3 4
5 ง.
1 4 5 6
29. สารโคเวเลนต์ชนิดหนึ่งมีสูตร AH3 และรูปร่างโมเลกุลเป็นสามเหลี่ยมแบนราบ
อะตอม A ในสารนี้ไม่มีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว ข้อใดที่น่าจะเป็นสมบัติของสาร AH3
ก.โมเลกุลมีขั้ว ละลายน้ำ จุดเดือดต่ำ
ข.เกิดพันธะไฮโดรเจน จุดเดือดสูง และละลายน้ำได้
ค.โมเลกุลไม่มีขั้ว และมีแรงแวนเดอร์วาลส์
(ลอนดอน) เป็นแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
ง.โมเลกุลไม่มีขั้ว แต่เกิดพันธะไฮโดรเจนได้
30. ตารางข้างล่างนี้แสดงจุดหลอมเหว จุดเดือด และความสามารถในการนำไฟฟ้า
เมื่อหลอมเหลวของสารประกอบคลอไรด์ A , B และC
สารประกอบคลอไรด์
|
จุดหลอมเหลว
|
จุดเดือด
|
การนำไฟฟ้า
|
A
|
883
|
1650
|
ดีมาก
|
B
|
1148
|
2750
|
ดี
|
C
|
548
|
1005
|
ไม่ดี
|
สิ่งที่สรุปได้จากข้อมูลคือ
ก. A และ B เป็นสารประกอบไอออนิก ข. A,B
และ
C เป็นสารประกอบไอออนิก
ค. A เป็นสารประกอบไอออนิกเพียงสารเดียว ง. B เป็นสารประกอบไอออนิกเพียงสารเดียว
ค. A เป็นสารประกอบไอออนิกเพียงสารเดียว ง. B เป็นสารประกอบไอออนิกเพียงสารเดียว
31. สารใดมีรูปร่างโมเลกุล ไม่ เหมือนกัน
ก. HO2 และ SBr2 ข. NOCl และ COS ค. HCl และ CS2 ง. CCl4และ POCl3
32. สารในข้อใด เป็นโมเลกุลมีขั้ว แต่ ไม่มี พันธะไฮโดรเจน
ก. HF ข. NH3 ค. C2H5OH ง. SO2
กำหนด พลังงานพันธะ(kJ/mol) C-C = 348 C=C = 614 C-H =413 C-Cl = 339 Cl-Cl = 242
C=O = 745 C-O = 358 O-H = 463 O=O = 498
33. ถ้าไซโคลเฮกซีน(C6H10) เกิดปฏิกิริยาการรวมตัวกับคลอรีนจะมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานกี่กิโลจูลต่อโมล
ก. 170 ข. 340 ค. 412 ง. 242
34. ในการเผาไหม้โพรทานอล ( C3H7OH ) 1 โมล
ได้ผลิตภัณฑ์เป็น แก๊ส CO2 และ H2O
(ไอน้ำ)
จะดูดหรือคายพลังงาน กี่กิโลจูลต่อโมล
ก. ดูดพลังงาน 1.52 kJ ข. คายพลังงาน 1,525 kJ
ค. ดูดพลังงาน 1,883 kJ ง. คายพลังงาน 1,883 kJ
35. กำหนดให้ ธาตุ A มีพลังงานไอออไนเซชันตั้งแต่ ลำดับที่ 1 ถึง 8 ดังนี้ 1.320,3.395, 5.307, 7.476, 10.996, 13.333, 71.343 และ 84.086
ก. ดูดพลังงาน 1.52 kJ ข. คายพลังงาน 1,525 kJ
ค. ดูดพลังงาน 1,883 kJ ง. คายพลังงาน 1,883 kJ
35. กำหนดให้ ธาตุ A มีพลังงานไอออไนเซชันตั้งแต่ ลำดับที่ 1 ถึง 8 ดังนี้ 1.320,3.395, 5.307, 7.476, 10.996, 13.333, 71.343 และ 84.086
ธาตุ B มีพลังงานไอออไนเซชัน ตั้งแต่ลำดับที่ 1 ถึง 4 ดังนี้
800, 2400, 3700 และ 25000
จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้
1. สูตรทั่วไปของสารประกอบ AB คือ A2B3
2. สารประกอบ AB เมื่อละลายในน้ำแล้วเปลี่ยนกระดาษลิตมัสจากแดงเป็นน้ำเงิน แต่ไม่เปลี่ยนกระดาษลิตมัสจากน้ำเงินเป็นแดง
3. สารประกอบ AB มีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง
4. สารประกอบ AB ยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะโคเวเลนต์และมีลักษณะเป็นของเหลว
ข้อใดถูก
1. สูตรทั่วไปของสารประกอบ AB คือ A2B3
2. สารประกอบ AB เมื่อละลายในน้ำแล้วเปลี่ยนกระดาษลิตมัสจากแดงเป็นน้ำเงิน แต่ไม่เปลี่ยนกระดาษลิตมัสจากน้ำเงินเป็นแดง
3. สารประกอบ AB มีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง
4. สารประกอบ AB ยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะโคเวเลนต์และมีลักษณะเป็นของเหลว
ข้อใดถูก
ก. 1,4
ข. 2,3
ค.
ค. เฉพาะ 3
ง. เฉพาะ 4
36. ข้อมูลแสดงค่าพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการละลายสาร A, B, และ C เป็นดังนี้
สาร
|
พลังงานไฮเดรชัน
|
พลังงานแลตทิซ
|
A
|
745
|
750
|
B
|
590
|
550
|
C
|
690
|
700
|
ถ้าใช้สาร A, B และ C จำนวนโมลเท่ากัน
ละลายในน้ำที่มีปริมาตร
100 cm3 การเปรียบเทียบอุณหภูมิของแต่ละสารละลาย ข้อใดถูก
ก. A
> B >
C ข. B
> A >
C ค. B
> C >
A ง. C
> A > B
37. กำหนดให้ พลังงานแลตทิชของ NaCl = 787 kJ/mol พลังงานไอออไนเซชั่นของ Na(g) = 494 kJ/mol
37. กำหนดให้ พลังงานแลตทิชของ NaCl = 787 kJ/mol พลังงานไอออไนเซชั่นของ Na(g) = 494 kJ/mol
พลังงานของ Cl2(g)
= 242 kJ/mol
พลังงานสัมพรรคภาพอิเล็กตรอนของ
Cl(g) = 347 kJ/mol
พลังงานการระเหิดของ
Na(s) = 109 kJ/mol
ปฏิกิริยา Na(s) + 1/2Cl2 ------>
NaCl(s) ที่ 25 C คายพลังงานความร้อนจำนวนเท่าใด
ก. 410 kJ ข. 531 kJ ค. 724 kJ ง. 1134 kJ
38. 38Sr ทำปฎิกิริยากับ 16S สารประกอบที่ได้ควรมีสูตรอย่างไร
ก. SrS3 ข. Sr2S3 ค. SrS ง. Sr3S3
ก. 410 kJ ข. 531 kJ ค. 724 kJ ง. 1134 kJ
38. 38Sr ทำปฎิกิริยากับ 16S สารประกอบที่ได้ควรมีสูตรอย่างไร
ก. SrS3 ข. Sr2S3 ค. SrS ง. Sr3S3
39. สูตรโครงสร้างลิวอิสตามกฏออกเตตของโมเลกุลและไอออนต่อไปนี้ ข้อใดไม่มีขั้ว
ก. OF2 ข. FNO ค. CO ง. OCS
ก. OF2 ข. FNO ค. CO ง. OCS
40. อะตอมของธาตุใดที่อยู่ในสภาพที่เสถียร
ก. ฮีเลียม ข. ไนโตรเจน ค. ไฮโดรเจน ง. อาร์ซินิก
41. ข้อความใดต่อไปนี้ ไม่ ถูกต้อง
ก. ฮีเลียม ข. ไนโตรเจน ค. ไฮโดรเจน ง. อาร์ซินิก
41. ข้อความใดต่อไปนี้ ไม่ ถูกต้อง
ก.
พันธะโคเวเลนต์เป็นพันธะที่เกิดจากการใช้อิเล็กตรอนเป็นคู่ๆ
ข.
พันธะไอออนิกเป็นแรงดึงดูดระหว่างไอออนที่มีประจุต่างกัน
ค.
พันธะโลหะเป็นพันธะที่เกิดจากแรงดึงดูดระหว่างอะตอมของโลหะกับอิเล็กตรอนทั้งหมดที่มีอยู่ในโลหะ
ง.
พันธะไอออนิก ทำให้สารไอออนิกไม่มีสูตรโมเลกุลและมีจุดหลอมเหลวสูง
42. อะตอมที่ให้หรือรับอิเล็คตรอน จะเกิดเป็นพันธะใด
42. อะตอมที่ให้หรือรับอิเล็คตรอน จะเกิดเป็นพันธะใด
ก. พันธะเคมี ข.
พันธะไอออนิก ค.
พันธะโคเวเลนต์ ง. พันธะโลหะ
43. ประเภทของพันธะหรือแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคในสารต่อไปนี้ เหล็ก,
น้ำตาลกลูโคส,
เกลือแกง
ข้อใดต่อไปนี้ เป็นการเรียงลำดับอย่างถูกต้อง
ก. พันธะโลหะ ,
พันธะโคเวเลนต์,
แรงลอนดอน ข. แรงลอนดอน,
พันธะไอออนิก,
พันธะโคเวเลนต์
ค. พันธะไอออนิก, พันธะโคเวเลนต์, พันธะโลหะ ง. พันธะโลหะ, แรงลอนดอน, พันธะไอออนิก
ค. พันธะไอออนิก, พันธะโคเวเลนต์, พันธะโลหะ ง. พันธะโลหะ, แรงลอนดอน, พันธะไอออนิก
44. ข้อใดต่อไปนี้ผิด
ก. สารประกอบไอออนิกมักเกิดระหว่างธาตุที่มีพลังงานไอออไนเชชันต่ำกับธาตุที่มีค่าENสูง
ข. เมื่อหลอมเหลวสารประกอบไอออนิกจะเป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
ค. การเกิดสารประกอบไอออนิกเป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
ง. สารประกอบไอออนิกยึดเหนี่ยวกันด้วยแรงทางไฟฟ้า
ก. สารประกอบไอออนิกมักเกิดระหว่างธาตุที่มีพลังงานไอออไนเชชันต่ำกับธาตุที่มีค่าENสูง
ข. เมื่อหลอมเหลวสารประกอบไอออนิกจะเป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
ค. การเกิดสารประกอบไอออนิกเป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
ง. สารประกอบไอออนิกยึดเหนี่ยวกันด้วยแรงทางไฟฟ้า
45. ข้อใด ไม่ใช่ แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
ก. แรงแวนเดอร์วาลส์ ข. แรงดึงดูดระหว่างขั้ว ค. พันธะไฮโดรเจน ง. พันธะโคเวเลนต์
ก. แรงแวนเดอร์วาลส์ ข. แรงดึงดูดระหว่างขั้ว ค. พันธะไฮโดรเจน ง. พันธะโคเวเลนต์
46. พิสูจน์ใดที่เเสดงว่าผลึกโซเดียมคลอไรด์เป็นสารประกอบไอออนิก
อนิก ก. ผลึกโซเดียมคลอไรด์ละลายน้ำ สารละลายที่ได้จะมีจุดเยือกเเข็งลดลง
ข. โซเดียมคลอไรด์ที่หลอมเหลวนำไฟฟ้าได้
ค. โซเดียมคลอไรด์ละลายน้ำเเล้วคายพลังงาน
ง. โซเดียมคลอไรด์ละลายน้ำนำไฟฟ้าได้
อนิก ก. ผลึกโซเดียมคลอไรด์ละลายน้ำ สารละลายที่ได้จะมีจุดเยือกเเข็งลดลง
ข. โซเดียมคลอไรด์ที่หลอมเหลวนำไฟฟ้าได้
ค. โซเดียมคลอไรด์ละลายน้ำเเล้วคายพลังงาน
ง. โซเดียมคลอไรด์ละลายน้ำนำไฟฟ้าได้
47. รูปร่างโมเลกุลของสารในข้อใดเป็นรูปสามเหลี่ยมแบนราบ
ก. NH4+ และ SiH4 ข. SO3 และ BF3 ค. CH3Cl
และ
O3 ง. PH3 และ CH2O
48. ธาตุ A และ B มีเลขอะตอม 15 และ 35 ตามลำดับ คลอไรด์ของ A และ B ควรมีรูปร่างอย่างไร
ตามลำดับ
ก. สามเหลี่ยมแบนราบ และพีระมิดฐานสามเหลี่ยม ข. พีระมิดฐานสามเหลี่ยม และเส้นตรง
ค. ทรงสี่หน้า และสามเหลี่ยมแบนราบ ง. พีระมิดคู่ฐานสามเหลี่ยม และเส้นตรง
49. มุมระหว่างพันธะในโมเลกุลโคเวเลนต์เรียงตามลำดับจากมากไปน้อยดังข้อใด
ก. สามเหลี่ยมแบนราบ และพีระมิดฐานสามเหลี่ยม ข. พีระมิดฐานสามเหลี่ยม และเส้นตรง
ค. ทรงสี่หน้า และสามเหลี่ยมแบนราบ ง. พีระมิดคู่ฐานสามเหลี่ยม และเส้นตรง
49. มุมระหว่างพันธะในโมเลกุลโคเวเลนต์เรียงตามลำดับจากมากไปน้อยดังข้อใด
ก. CS2 >
BF3 > CH4 > Cl2O
ข. Cl2O
> CS2 > BF3 > CH4
ค. BF3 > CS2 > Cl2O > CH4 ง. CS2 > Cl2O > BF3 > CH4
50. ข้อใดเป็นโมเลกุล ไม่มีขั้ว
ค. BF3 > CS2 > Cl2O > CH4 ง. CS2 > Cl2O > BF3 > CH4
50. ข้อใดเป็นโมเลกุล ไม่มีขั้ว
ก. CO2,
CCl4 และ CH3Cl
ข. CO2,
SF6 และ BCl3
ค. BCl3, NCl3 และ CCl4 ง. HCN, NCl3 และ CO2
ค. BCl3, NCl3 และ CCl4 ง. HCN, NCl3 และ CO2
เฉลย
1. ก
2. ก
3. ค
4. ง
5. ค
6. ก
7. ก
8. ง
9. ค
10. ค
11. ค
12. ข
13. ก
14. ข
15. ค
16. ค
17. ก
18. ก
19. ค
20. ก
21. ง
22. ง
23. ง
24. ข
25. ค
26. ง
27. ค
28. ข
29. ค
30. ก
31. ข
32. ง
33. ก
34. ข
35. ค
36. ค
37. ก
38. ค
39. ก
40. ก
41. ค
42. ข
43. ง
44. ค
45. ง
46. ข
47. ข
48. ข
49. ก
50. ข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น